อัตราส่วน ร้อยละ (Ratio and Percent)

อัตราส่วนคือ
1. การเปรียบเทียบปริมาณตั้งแต่สองจำนวนขึ้นไป
2. ไม่สนใจหน่วยวัด

ให้ a, b, c เป็นปริมาณใด ๆ อัตราส่วนระหว่างจำนวนทั้งสามเขียนแทนด้วย a : b : c  ถ้ามีเพียงสองจำนวนอาจเขียนในรูปของเศษส่วนได้ เช่น  a : b คือ ab

เช่น อัตราส่วนของนักเรียนหญิงต่อนักเรียนในชั้นเรียน A คือ 4 : 3  ตีความเบื้องต้นได้ว่าในชั้นเรียน A มีนักเรียนหญิง 4 คน และมีนักเรียนชาย 3 คน รวมทั้งหมด 4+3 = 7 คน แต่ในความเป็นจริงอาจมีจำนวนนักเรียนรวมมากกว่านี้ได้  หากมีจำนวนนักเรียนรวมแล้ว 28 คน เราก็จะสามารถนำอัตราส่วนนี้ไปหาจำนวนนักเรียนหญิงหรือชายที่มีอยู่จริงได้ ด้วยการหาตัวเลขมาคูณกับอัตราส่วนที่ทราบจะได้อัตราส่วนใหม่ แล้วนำเอาตัวเลขของอัตราส่วนมารวมกัน จนได้จำนวนรวมเท่ากับความจริง ตัวเลขที่ประกอบกันเป็นอัตราส่วนจะบอกถึงจำนวนนักเรียนหญิงและชายได้

43×1=43จำนวนนักเรียนคือ 4 + 3 = 7
43×2=86จำนวนนักเรียนคือ 8 + 6 = 14
43×3=129จำนวนนักเรียนคือ 12 + 9 = 21
43×4=1612จำนวนนักเรียนคือ 16 + 12 = 28

ประเภทของอัตราส่วน
1. อัตราส่วนเชิงประกอบ คืออัตราส่วนที่เกิดจากการคูณกันระหว่างอัตราส่วน เช่น
23×43 ได้อัตราส่วนใหม่เป็น 89 หรือ 8 : 9
ab×cd ได้อัตราส่วนใหม่เป็น abcd หรือ ab : cd
ab×bc×cd×de ได้อัตราส่วนใหม่เป็น ae หรือ a : e
ab×ab ได้อัตราส่วนใหม่เป็น a2b2 หรือ a2:b2

2. อัตราส่วนต่อเนื่อง ในบางกรณีอัตราส่วนมีส่วนที่สามารถนำมาเชื่อมกันได้ก็จะทำให้เกิดอัตราส่วนใหม่ได้ เช่น

A : B = 3 : 4 และ B : C = 4 : 9 เมื่อนำมาเชื่อมกันจะได้อัตราส่วนใหม่เป็น A : B : C คือ 3 : 4 : 9

สังเกตุว่าตัวเชื่อมคือ B ซึ่งมีอยู่ในทัังสองอัตราส่วน และมีค่าเท่ากันในสองอัตราส่วน การเชื่อมจึง
ทำได้ง่าย แต่ในกรณีที่ตัวเชื่อมมีค่าไม่เท่ากัน เช่น

A : B = 3 : 4 และ B : C = 6 : 7  จะไม่สามารถนำมาเชื่อมกันได้ทันที ต้องทำให้ B หรือ ตัวเชื่อมมีค่าเท่ากันเสียก่อน โดยใช้หลักการหา Least Common Multiple มาช่วย ขั้นตอนคือ

1. หา LCM (ค.ร.น) ของ B หรือตัวเชื่อม สำหรับทั้งสองอัตราส่วน
B ในอัตราส่วนที่ 1 มีค่าเป็น 4
B ในอัตราส่วนที่ 2 มีค่าเป็น 6
ได้ LCM  คือ 12

2. นำค่าของ B ในแต่ละอัตราส่วน ไปหารค่า LCM ที่ได้ เพื่อหาตัวคูณ
B ในอัตราส่วนที่ 1 มีค่าเป็น  4 นำไปหาร 12 ได้ตัวคุณคือ 3
B ในอัตราส่วนที่ 2 มีค่าเป็น 6 นำไปหาร 12 ได้ตัวคุณคือ 2

นำตัวคูณที่ได้กลับไปคูณอัตราส่วนเดิม
อัตราส่วน 1 : 34×3=912
อัตราส่วน 2 : 67×2=1214

3. นำอัตราส่วนมาเชื่อมกัน จะได้ A : B : C = 9 : 12 : 14

อัตราส่วนที่เท่ากัน
1. เมื่อนำจำนวนใดๆ ที่ไม่ใช่ศูนย์ มาคูณหรือหารอัตรส่วนใดๆ แล้ว จะได้อัตราส่วนใหม่ ที่ถือว่าเท่ากับอัตราส่วนเดิม

อัตราส่วนเดิม   4 : 5  คูณด้วย 3  จะได้ 4 : 5 x 3  = 12 : 15  จะถือว่า 4 : 5 = 12 : 15
อัตราส่วนเดิม   4 : 5  คูณด้วย  13  จะได้ 4 : 5 x 13  = 4353  เขียนใหม่ได้เป็น  12 : 15

2. ทดสอบการเท่ากันของอัตราส่วนสองอัตราส่วนด้วยการคูณไขว้
30 : 42 กับ 10 : 14 ใช้คูณไขว้  30 x 14  และ 42 x 10 ซึ่งต่างก็มีค่าเป็น 420 ดังนั้นสรุปได้ว่า 30 : 42 = 10 : 14


3. เมื่อ ab=cd แล้วจะได้ ba=dc และ ac=bd


ตัวอย่างปัญหา
1. ถ้า
A ทำงาน 8 วัน ได้ค่าจ้าง 896 บาท
B ทำงาน 17 วัน ได้ค่าจ้าง 2,108 บาท

จงหาอัตราส่วนรายได้ของ A : B

1. หาค่าจ้างต่อเวลา ของ A และ B

ค่าจ้างต่อเวลาของ A  คือ  ค่าจ้างที่ได้รับเวลาทำงานทั้งหมด = 8968=112:1
ค่าจ้างต่อเวลาของ B  คือ  ค่าจ้างที่ได้รับเวลาทำงานทั้งหมด = 210817=124:1
ได้หน่วยเวลาที่เท่ากันแล้วคือ 1 วัน ดังนั้น อัตราส่วนรายได้ของ A : B = 112 : 124 = 28:31





ความคิดเห็น