พิจารณาลำดับ (sequence) ของตัวเลขนี้
สามารถเขียนใหม่เป็น
แต่ละ term ประกอบด้วยสองส่วน คือ ส่วนค่าคงที่ (ในที่นี้คือ 1 ) และส่วนที่เป็นตัวคูณ ซึ่งจะมีการเพิ่มค่าขึ้นไปเรื่อยๆ (ในที่นี้คือ , n คือตำแหน่งในลำดับอของ term นั้น )
เราสามารถเขียนรูปแบบทั่วไป (general form) ของลำดับ ณ ตำแหน่งใดๆ คือ
เมื่อ
a คือค่าคงที่
r คือตัวคูณ
n คือเลขแทนตำแหน่ง
และลำดับแบบนี้เรียกว่า geometric sequence หรืออนุกรมเรขาคณิต
ยกตัวอย่าง
10, 30, 90, 270,810,...
เขียนในรูปแบบ general form คือ
ทำไมถึงเรียกว่า Geometric sequence ลองพิจารณาดูว่า ถ้ากำหนดให้ และ a = 1 การเขียนลำดับจะเหมือนกับการหาพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมสีม่วง ซึ่งเป็นเนื้อหาที่ว่ากันในวิชาเรขาคณิต

By en:User:Jim.belk (original); Pbroks13 (talk) (redraw) - en:Image:GeometricSquares.png, Public Domain, Link
Sum of Geometric Sequence (finite terms)
อยู่ในรูป
หรือ
เราอาจเขียนใหม่ในรูปแบบ
เพื่อจะหาค่าของ ขอให้พิจารณาผลลัพธ์ของ โดยอ้างอิง Polynomial Remainder Theorem [1] จะได้ว่า
หากเราแทน x ด้วย r เราก็จะสามารถหาค่าของ ได้
เอกสารอ้างอิง
[1] https://en.wikipedia.org/wiki/Polynomial_remainder_theorem
สามารถเขียนใหม่เป็น
แต่ละ term ประกอบด้วยสองส่วน คือ ส่วนค่าคงที่ (ในที่นี้คือ 1 ) และส่วนที่เป็นตัวคูณ ซึ่งจะมีการเพิ่มค่าขึ้นไปเรื่อยๆ (ในที่นี้คือ
เราสามารถเขียนรูปแบบทั่วไป (general form) ของลำดับ ณ ตำแหน่งใดๆ คือ
เมื่อ
a คือค่าคงที่
r คือตัวคูณ
n คือเลขแทนตำแหน่ง
และลำดับแบบนี้เรียกว่า geometric sequence หรืออนุกรมเรขาคณิต
ยกตัวอย่าง
10, 30, 90, 270,810,...
เขียนในรูปแบบ general form คือ
ทำไมถึงเรียกว่า Geometric sequence ลองพิจารณาดูว่า ถ้ากำหนดให้

By en:User:Jim.belk (original); Pbroks13 (talk) (redraw) - en:Image:GeometricSquares.png, Public Domain, Link
Sum of Geometric Sequence (finite terms)
อยู่ในรูป
หรือ
เราอาจเขียนใหม่ในรูปแบบ
เพื่อจะหาค่าของ
หากเราแทน x ด้วย r เราก็จะสามารถหาค่าของ
เอกสารอ้างอิง
[1] https://en.wikipedia.org/wiki/Polynomial_remainder_theorem
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น