![]() |
โยน 1 ลูก เซตของหน้าลูกเต๋าที่หงายขึ้น Sample space คือ
ถ้ากำหนดให้ A แทนเหตุการณ์ของหน้าลูกเต๋าที่หงายขึ้นเป็นเลขคี่ จะได้
และกำหนด B แทนเหตุการณ์ที่หน้าลูกเต๋าที่หงายมีค่าน้อยกว่า 4 จะได้
ถ้าเราสนใจหาความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ที่เป็นเงื่อนไขต่อกัน เช่น สนใจเหตุการณ์ที่หน้าลูกเต๋าหงายเป็นเลขคี่และเหตุการณ์ที่หน้าลูกเต๋ามีค่าน้อยกว่า 4 ในการคำนวณ เราต้องการตีกรอบเหตุการณ์ให้แคบลงมาเหลือเฉพาะที่เป็นเลขคี่ก่อน คือ
และเนื่องจากเราจำกัดวงของเหตุการณ์ให้แคบลงเหลือแค่ในขอบเขตของเหตุการณ์ B ดังนั้นในการหาค่าความน่าจะเป็นของ C จึงต้องใช้ sample space ที่เป็น B แทนที่ S
![]() |
รูปที่ 1 |
เราเรียกเหตุการณ์
นำไปสู่ข้อสรุปที่ว่า
"If A and B are events in same sample space, then conditional probability of A given B is defined as"
กรณีพิเศษ
1. ถ้า A และ B เป็นเหตุการณ์ที่เป็นอิสระต่อกัน (disjoint)
2. ถ้า A อยู่ใน B (
3. ถ้า B อยู่ใน A (
ตัวอย่าง ในการสำรวจลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ของบริษัท A ไปจำนวน 100 ราย พบว่า มี 40 รายที่ซื้ออุปกรณ์เสริมเป็นระบบสัญญาณกันขโมยอย่างเดียว มี 30 รายที่ซื้อ car seat สำหรับเด็กอย่างเดียว และมี 20 รายที่ซื้อทั้งสองรายการ ที่เหลือไม่ได้ซื้ออุปกรณ์ใด ถ้าสุ่มเลือกลูกค้ากลุ่มนี้มา 1 รายจากกลุ่มที่ได้ซื้อระบบสัญญาณกันขโมยไป probability ที่ลูกค้ารายนี้จะเป็นลูกค้าที่ซื้อ car seat ไปด้วยมีค่าเท่าใด
![]() |
ให้ X แทนเหตุการณ์ที่ลูกค้าซื้ออุปกรณ์เสริมเป็นระบบสัญญาณกันขโมยอย่างเดียว
ให้ Y แทนเหตุการณ์ที่ลูกค้าซื้ออุปกรณ์เสริมเป็น car seat อย่างเดียว
การเลือกลูกค้า 1 แบบสุ่มจากกลุ่มลูกค้าที่ได้ซื้อระบบสัญญาณกันขโมยไป เงื่อนไขนี้ทำให้เราตีกรอบให้มองไปในพื้นที่ลูกค้าที่อยู่ในกลุ่ม X เท่าน้น แล้วมองดูว่าลูกค้ากลุ่มนี้มีจำนวนเท่าใดที่ได้ซื้อ car seat ไปด้วย หรือ โจทย์ได้ถามหา
จากกำหนดมา
จาก (1.0)
ขอให้สังเกตุว่ามีความต่างกันหากโจทย์ถามว่า "เลือกลูกค้าแบบสุ่มมา 1 คน โอกาสที่ที่ลูกค้ารายนี้จะเป็นลูกค้าที่ซื้อทั้งสองรายการเป็นเท่าใด" คำตอบควรเป็น 0.2 ที่ต่างคือโจทย์ได้กำหนดเหตุการณ์ที่เป็นเงื่อนไขขึ้นมาก่อนแล้วจึงถามหาความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ที่ซ้อนเข้าไป
ตัวอย่าง ครอบครัวที่มีบุตร 2 คน Sample space ของเพศของบุตรทั้งสองคือ
1. เลือกครอบครัวจากกลุ่มที่มีบุตรคนแรกเป็นหญิง ความน่าจะเป็นที่ครอบครัวนั้นจะมีบุตรคนที่สองเป็นหญิง
2. เลือกครอบครัวจากกลุ่มที่มีบุตรเป็นหญิงอย่างน้อย 1 คน ความน่าจะเป็นที่ครอบครัวนั้นจะมีบุตรคนที่สองเป็นหญิง
ให้ A แทน เหตุการณ์ลูกคนแรกเป็นหญิง
ให้ B แทน เหตุการณ์ลูกคนที่สองเป็นหญิง
ได้
จะได้
ข้อ 1.
ข้อ 2 .
ให้ A แทนเหตุการณ์ลูกอย่างน้อยหนึ่งคนเป็นหญิง,
ให้ B แทนเหตุการณ์ลูกคนที่สองเป็นหญิง
ได้
จะได้
Chain rule for conditional probability
และ
เนื่องจาก
![]() |
รูปที่ 1 พื้นที่ที่ใช้แทนความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ |
ลองเพิ่มจำนวนเหตุการณ์เข้าเป็นสามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นร่วมกันแบบมีเงื่อนไข
![]() |
รูปที่ 2 |
พิจารณารวมเหตุการณ์จาก 3 เหลือ 2 เหตุการณ์โดยการรวมกลุ่ม
พิจารณาดูว่า
![]() |
รูปที่ 3 |
ดูรูปที่ 3
และเราทราบว่า
นำค่าจาก
พิจารณา
ถ้าหากเพิ่มจำนวนเหตุการณ์ E เป็นเหตุการณ์ที่ 5 เข้าไป สมการที่ได้ก็ควรจะเป็น
นำไปสู่ข้อสรุปรูปแบบสมการทั่วไปดังนี้
เรียกสมการ
ตัวอย่าง สมมุติว่ามีการระบาดของโรคร้ายชนิดหนึ่ง จากการสำรวจทำให้ทราบว่า ผู้ติดเชื้อโรคนี้จะมีอาการรุนแรง 5 % ถ้าทำการเลือกผู้ติดเชื้อแบบสุ่มทีละคนจำนวน 3 คนจากผู้ติดเชื้อ 100 คน หนึ่งเพื่อตรวจสอบ ความน่าจะเป็นในการที่จะเลือกได้ผู้ติดเชื้อมีอาการทั้งสามคนคือเท่าใด
กำหนดให้
กำหนดให้
กำหนดให้
จะได้ว่า
และ
สิ่งที่ต้องการหาคือ
จากกำหนดให้ผู้ติดเชื้อ 100 คนประกอบด้วยสองส่วนคือ 5 คนมีอาการรุนแรงและ 95 คนมีอาการไม่รุนแรง
![]() |
การที่จะเลือกผู้ติดเชื้อรายแรกแล้วจะได้เป็นผู้ติดเชื้อที่มีอาการรุนแรง จะต้องได้มาจากส่วนที่เป็น 5 คน จากผู้ติดเชื้อทั้งหมด 100 คน เท่านั้น นั่นคือ
หลังจากเลือกผู้ติดเชื้อรายแรกไปแล้ว จะเหลือผู้ติดเชื้อทั้งหมด 99 คน และการที่จะเลือกคนที่สองแล้วได้ผู้ติดเชื้อที่มีอาการรุนแรง จะต้องเลือกมาจากส่วนที่ผู้ติดเชื้อมีอาการรุนแรง ซึ่งตอนนี้จะเหลือให้ 4 ราย นั่นคือ
ทำนองเดียวกัน หลังจากเลือกผู้ติดเชื้อสองไปแล้วจะเหลือผู้ติดเชื้อทั้งหมด 98 คน และการที่จะได้ผู้ติดเชื้อรายที่สามเป็นผู้ติดเชื้อที่มีอาการรุนแรงอีกก็ต้องมาจากส่วนที่เป็นผู้ติดเชื้ออาการรุนแรงอีก ซึ่งตอนนี้จะเหลือ 3 คน นั่นคือ
จาก
แทนค่าที่ได้จาก (3.1),(3.2),(3.3)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น