Probability : Conditional probability

 



โยน 1 ลูก เซตของหน้าลูกเต๋าที่หงายขึ้น Sample space คือ 

S={1,2,3,4,5,6}

ถ้ากำหนดให้ A แทนเหตุการณ์ของหน้าลูกเต๋าที่หงายขึ้นเป็นเลขคี่ จะได้

A={1,3,5}P(A)=ASP(A)=36=12

และกำหนด B แทนเหตุการณ์ที่หน้าลูกเต๋าที่หงายมีค่าน้อยกว่า 4 จะได้

B={1,2,3}P(B)=BSP(B)=36=12

ถ้าเราสนใจหาความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ที่เป็นเงื่อนไขต่อกัน เช่น สนใจเหตุการณ์ที่หน้าลูกเต๋าหงายเป็นเลขคี่และเหตุการณ์ที่หน้าลูกเต๋ามีค่าน้อยกว่า 4 ในการคำนวณ เราต้องการตีกรอบเหตุการณ์ให้แคบลงมาเหลือเฉพาะที่เป็นเลขคี่ก่อน คือ 1,3,5 แล้วมองหาจำนวนเหตุการณ์ที่สองคือเลขคี่ที่น้อยกว่า 4   ถ้าให้ C แทนเหตุการณ์ที่ระบุด้วยเงื่อนไขนี้ 

C=AB={1,3}

และเนื่องจากเราจำกัดวงของเหตุการณ์ให้แคบลงเหลือแค่ในขอบเขตของเหตุการณ์ B ดังนั้นในการหาค่าความน่าจะเป็นของ C จึงต้องใช้ sample space ที่เป็น B แทนที่ S


รูปที่ 1

P(C)=CBP(C)=ABBP(C)=23

เราเรียกเหตุการณ์ P(C) นี้ว่าเป็นค่าความน่าจะเป็นแบบมีเงื่อนไข (conditional probability of A given B) เขียนแทนด้วย P(AB)

P(AB)=ABBP(AB)=ABSBSP(AB)=P(AB)P(B)

นำไปสู่ข้อสรุปที่ว่า
"If A and B are events in same sample space, then conditional probability of A given B is defined as"


(1.0)P(AB)=P(AB)P(B)


กรณีพิเศษ

1. ถ้า A และ B เป็นเหตุการณ์ที่เป็นอิสระต่อกัน (disjoint) AB= จะได้

P(AB)=P(AB)P(B)P(AB)=P()P(B)P(AB)=0P(B)P(AB)=0

2. ถ้า A อยู่ใน B ( AB )


P(AB)=P(AB)P(B)P(AB)=P(A)P(B)

3. ถ้า B อยู่ใน A ( BA )


P(AB)=P(AB)P(B)P(AB)=P(B)P(B)P(AB)=1.0

ตัวอย่าง ในการสำรวจลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ของบริษัท A ไปจำนวน 100 ราย พบว่า มี 40 รายที่ซื้ออุปกรณ์เสริมเป็นระบบสัญญาณกันขโมยอย่างเดียว มี 30 รายที่ซื้อ car seat สำหรับเด็กอย่างเดียว และมี 20 รายที่ซื้อทั้งสองรายการ ที่เหลือไม่ได้ซื้ออุปกรณ์ใด ถ้าสุ่มเลือกลูกค้ากลุ่มนี้มา 1 รายจากกลุ่มที่ได้ซื้อระบบสัญญาณกันขโมยไป probability ที่ลูกค้ารายนี้จะเป็นลูกค้าที่ซื้อ car seat ไปด้วยมีค่าเท่าใด




ให้ X แทนเหตุการณ์ที่ลูกค้าซื้ออุปกรณ์เสริมเป็นระบบสัญญาณกันขโมยอย่างเดียว

ให้ Y แทนเหตุการณ์ที่ลูกค้าซื้ออุปกรณ์เสริมเป็น car seat อย่างเดียว

การเลือกลูกค้า 1 แบบสุ่มจากกลุ่มลูกค้าที่ได้ซื้อระบบสัญญาณกันขโมยไป เงื่อนไขนี้ทำให้เราตีกรอบให้มองไปในพื้นที่ลูกค้าที่อยู่ในกลุ่ม X เท่าน้น แล้วมองดูว่าลูกค้ากลุ่มนี้มีจำนวนเท่าใดที่ได้ซื้อ car seat ไปด้วย หรือ โจทย์ได้ถามหา P(YX)

จากกำหนดมา

P(X)=40100=0.4P(XY)=0.2

จาก (1.0)

P(YX)=P(XY)P(X)P(YX)=0.20.4P(YX)=0.5

ขอให้สังเกตุว่ามีความต่างกันหากโจทย์ถามว่า "เลือกลูกค้าแบบสุ่มมา 1 คน โอกาสที่ที่ลูกค้ารายนี้จะเป็นลูกค้าที่ซื้อทั้งสองรายการเป็นเท่าใด" คำตอบควรเป็น 0.2 ที่ต่างคือโจทย์ได้กำหนดเหตุการณ์ที่เป็นเงื่อนไขขึ้นมาก่อนแล้วจึงถามหาความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ที่ซ้อนเข้าไป


ตัวอย่าง ครอบครัวที่มีบุตร 2 คน Sample space ของเพศของบุตรทั้งสองคือ §={(,),(,),(,),(,)} คำนวณหาความน่าจะเป็นของเหตุการณ์

1. เลือกครอบครัวจากกลุ่มที่มีบุตรคนแรกเป็นหญิง ความน่าจะเป็นที่ครอบครัวนั้นจะมีบุตรคนที่สองเป็นหญิง

2. เลือกครอบครัวจากกลุ่มที่มีบุตรเป็นหญิงอย่างน้อย 1 คน ความน่าจะเป็นที่ครอบครัวนั้นจะมีบุตรคนที่สองเป็นหญิง


ให้ A แทน เหตุการณ์ลูกคนแรกเป็นหญิง P(A)=12

ให้ B แทน เหตุการณ์ลูกคนที่สองเป็นหญิง P(B)=12

ได้ BA คือเหตุการณ์ที่ลูกทั้งสองคนเป็นหญิง P(AB)=14

จะได้ BA คือเหตุการณ์ที่ลูกคนที่สองเป็นหญิง เมื่อทราบแล้วว่าลูกคนแรกเป็นหญิง

ข้อ 1. P(BA)=P(BA)P(A)P(BA)=1412P(BA)=12


ข้อ 2 .

ให้ A แทนเหตุการณ์ลูกอย่างน้อยหนึ่งคนเป็นหญิง, P(A)=34

ให้ B แทนเหตุการณ์ลูกคนที่สองเป็นหญิง P(B)=12

ได้ BA คือเหตุการณ์ที่ลูกทั้งสองคนเป็นหญิง P(AB)=14

จะได้ BA ลูกคนที่สองเป็นหญิง เมื่อทราบแล้วว่ามีลูกหญิงแล้วอย่างน้อย 1 คน

P(BA)=P(BA)P(A)P(BA)=1434P(BA)=13



Chain rule for conditional probability

P(AB)=P(AB)P(B)(2.1)P(AB)=P(AB)P(B)

และ

P(BA)=P(BA)P(A)(2.2)P(BA)=P(BA)P(A)

เนื่องจาก P(AB)=P(BA) ดังนั้น


(2.3)P(AB)=P(BA)P(A)=P(AB)P(B)


รูปที่ 1 พื้นที่ที่ใช้แทนความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ AB

ลองเพิ่มจำนวนเหตุการณ์เข้าเป็นสามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นร่วมกันแบบมีเงื่อนไข  P(ABC)=?

 รูปที่ 2

พิจารณารวมเหตุการณ์จาก 3 เหลือ 2 เหตุการณ์โดยการรวมกลุ่ม

P(ABC)=P(A(BC))(2.4)P(ABC)=P(A)P(BCA)

พิจารณาดูว่า P(BC)A) หาได้อย่างไร ?


รูปที่ 3

ดูรูปที่ 3 P(BC) คือพื้นที่ในวงสีแดง ดังนั้น P(BC)A) จึงตีความได้ว่า คือพื้นที่ของเหตุการณ์ BC ภายใต้เงื่อนไขที่ต้องมีเหตุการณ์ A เกิดขึ้นมาก่อน เขียนแทนด้วย P(BCA)

และเราทราบว่า

P(BC)=P(B)P(CB)(2.5)P(BCA)=P(BA)P(CA,B)

นำค่าจาก (2.5) ไปแทนใน (2.4)จะได้

P(ABC)=P(A)P(BCA)(2.6)P(ABC)=P(A)P(BA)P(CA,B)


พิจารณา (2.6) (อาจดูยากสักหน่อย แต่ลองพยายามดู) ถ้าหากเพิ่มจำนวนเหตุการณ์ D เป็นเหตุการณ์ที่ 4 เข้าไป สมการที่ได้ก็ควรจะเป็น

P(ABCD)=P(A)P(BA)P(CA,B)P(DA,B,C)

ถ้าหากเพิ่มจำนวนเหตุการณ์ E เป็นเหตุการณ์ที่ 5 เข้าไป สมการที่ได้ก็ควรจะเป็น

P(ABCDE)=P(A)P(BA)P(CA,B)P(DA,B,C)P(EA,B,C,D)

นำไปสู่ข้อสรุปรูปแบบสมการทั่วไปดังนี้


(2.7)P(A1A2A3An)=P(A1)P(A2A1)P(A3A1,A2)P(AnA1,A2,A3,...,An1)


เรียกสมการ (2.7) ว่าเป็น Chain rule for conditional probability


ตัวอย่าง สมมุติว่ามีการระบาดของโรคร้ายชนิดหนึ่ง จากการสำรวจทำให้ทราบว่า ผู้ติดเชื้อโรคนี้จะมีอาการรุนแรง 5 % ถ้าทำการเลือกผู้ติดเชื้อแบบสุ่มทีละคนจำนวน 3 คนจากผู้ติดเชื้อ 100 คน หนึ่งเพื่อตรวจสอบ ความน่าจะเป็นในการที่จะเลือกได้ผู้ติดเชื้อมีอาการทั้งสามคนคือเท่าใด

กำหนดให้ A1 แทนเหตุการณ์ผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นผู้ป่วยมีอาการรุนแรง
กำหนดให้ A2 แทนเหตุการณ์ผู้ติดเชื้อรายที่สองเป็นผู้ป่วยมีอาการรุนแรง
กำหนดให้ A3 แทนเหตุการณ์ผู้ติดเชื้อรายที่สามเป็นผู้ป่วยมีอาการรุนแรง

จะได้ว่า P(A1) คือความน่าจะเป็นที่ผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นผู้ป่วยมีอาการรุนแรง
P(A2A1) คือความน่าจะเป็นที่ผู้ติดเชื้อรายที่สองเป็นผู้ป่วยมีอาการรุนแรงเมื่อที่ผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นผู้ป่วยมีอาการรุนแรง
และ P(A3A1,A2) คือความน่าจะเป็นที่ผู้ติดเชื้อรายที่สามเป็นผู้ป่วยมีอาการรุนแรงเมื่อที่ผู้ติดเชื้อรายแรกและรายที่สองเป็นผู้ป่วยมีอาการรุนแรง
สิ่งที่ต้องการหาคือ P(A1A2A3 = ?

จากกำหนดให้ผู้ติดเชื้อ 100 คนประกอบด้วยสองส่วนคือ 5 คนมีอาการรุนแรงและ 95 คนมีอาการไม่รุนแรง




การที่จะเลือกผู้ติดเชื้อรายแรกแล้วจะได้เป็นผู้ติดเชื้อที่มีอาการรุนแรง จะต้องได้มาจากส่วนที่เป็น 5 คน จากผู้ติดเชื้อทั้งหมด 100 คน เท่านั้น นั่นคือ

(3.1)P(A1)=5100

หลังจากเลือกผู้ติดเชื้อรายแรกไปแล้ว จะเหลือผู้ติดเชื้อทั้งหมด 99 คน และการที่จะเลือกคนที่สองแล้วได้ผู้ติดเชื้อที่มีอาการรุนแรง จะต้องเลือกมาจากส่วนที่ผู้ติดเชื้อมีอาการรุนแรง ซึ่งตอนนี้จะเหลือให้ 4 ราย นั่นคือ

(3.2)P(A2A1)=499

ทำนองเดียวกัน หลังจากเลือกผู้ติดเชื้อสองไปแล้วจะเหลือผู้ติดเชื้อทั้งหมด 98 คน และการที่จะได้ผู้ติดเชื้อรายที่สามเป็นผู้ติดเชื้อที่มีอาการรุนแรงอีกก็ต้องมาจากส่วนที่เป็นผู้ติดเชื้ออาการรุนแรงอีก ซึ่งตอนนี้จะเหลือ 3 คน นั่นคือ

(3.3)P(A2A1,A2)=398

จาก (2.7),

P(A1A2A3)=P(A1)P(A2A1)P(A3A1,A2)

แทนค่าที่ได้จาก (3.1),(3.2),(3.3)

P(A1A2A3)=5100×499×398P(A1A2A3)=116170

ความคิดเห็น